Title : ตะลุยฮอกไกโดกันค่ะ
Rate this article :
ไปเที่ยวฮอกไกโดกันค่ะ 




อันที่จริง หลายคนอาจจะนึกภาพของฮอกไกโดเป็นบรรยากาศหนาวๆ ปุยหิมะขาวๆ และเทศกาลหิมะที่มีสีสัน ซึ่งนอกจากฤดูหนาวแล้ว ฮอกไกโดยังมีทัศนียภาพสวยสดงดงามในฤดูกาลอื่นๆด้วยค่ะ 
โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูร้อนอย่างช่วงเดือน พฤษภา-มิถุนา หรือช่วงใบ้ไม้เปลี่ยนสี (ของฮอกไกโด) ราวๆเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม จะเป็นช่วงที่สวยงามมากๆอีกฤดูกาลหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ 

มาดูดีกว่าที่ไหนเหมาะเที่ยวเวลาไหนบ้าง

การท่องเที่ยวฮอกไกโดเวอร์ชั่นภาษาไทย
http://th.visit-hokkaido.jp/
 

1.จุดชมวิวทะเลหมอของ Hoshino Resorts Tomamu
จุดชมวิวอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 1088 เมตรค่ะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดอะเมซซิ่งเบื้องหน้าที่เป็นทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตาค่ะ ซึ่งทะเลหมอกนี้อาจจะต้องบอกคนจะเดินทางไปชมแบบตรงไปตรงมาว่า...มีเปอร์เซ็นต์เกิดประมาณ 30% ถึง 50% เท่านั้นเอง หรืออาจจะกล่าวได้ว่า เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะได้เห็นในทุกครั้งที่ได้ไป แต่ยังไงก็มีโอกาสครึ่งต่อครึ่ง ลองสักตั้งนะคะ 

 


Hoshino resorts TOMAMU HP (ภาษาอังกฤษ) 
https://www.snowtomamu.jp/summer/en/unkai/


สำหรับการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ 
หากนั่ง JR Sapporo สาย Tokkyu ให้ลงที่สถานีรถไฟ Tomamu ค่ะ 
 

2 เที่ยวทุงลาเวนเดอร์ที่ Biei และ Furano   

หากพูดถึงสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของฮอกไกโด หนึ่งสถานที่ที่จะไม่พูดไม่ได้เลยคือทุ่งดอกลาเวนเดอร์แห่ง Furano และ Biei ค่ะ 










 


นอกจากนี้ยังมีฟาร์ม TOMITA  และ Saika no Sato ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวค่ะ 
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปกลับจากตัวเมือง Sapporo ได้ภายในหนึ่งวันค่ะ 

 

สำหรับช่วงเวลาที่ดีสุดในการชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์นั้น คือช่วงเวลาก่อนที่ดอกลาเวนเดอร์จะบานเต็มที่นั่นเองค่ะ  ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสนุกไปกับกิจกรรมขับรถแทรคเตอร์ที่วิ่งไปท่ามกลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์ หรือจะเป็นการนั่งรถไฟนำเที่ยวก็ชวนเพลิดเพลินได้ไม่น้อยเลยนะคะ 

 
 

 


 

 

 
สำหรับการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ 
จาก Sapporo สามารถนั่งรถบัสขึ้นทางด่วนมาได้ (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ) 
หรือหากจะนั่้งรถไฟก็สามารถขึ้นรถไฟจากสถานีรถไฟ JR Sapporo ผ่านทางสถานีรถไฟ Asahikawa ก็ได้ค่ะ ประมาณ 3 ชั่วโมง 
หน้าเพจของฟาร์ม (ภาษาอังกฤษ)  Tomita ค่ะ  http://www.farm-tomita.co.jp/en/





3 เที่ยวมรดกโลกทางธรรมชาติที่จับต้องไม่ได้ "Shiretoko" 
และธรรมชาติอันมหัศจรรย์ของญี่ปุ่นที่คาบสมุทร Shiretoko ค่ะ
คาบสมุทร Shiretoko จะสวยที่สุดประมาณช่วงราวๆเดือน มิถุนายนซึ่งเป็นช่วงที่แนวเทือกเขาที่ทอดตัวยาวนั้นยังมีหิมะสีขาวหลงเหลืออยู่ 


https://zh-cht.activityjapan.com/publish/plan/13226

 

http://yorimichi.airdo.jp/shiretoko_okp

และสำหรับนักท่องเที่ยวที่นั่งเรือนำเที่ยวหากโชคดีก็อาจจะได้เห็นวาฬเพชฌฆาตหรือวาฬทั่วไปด้วยค่ะ 

หรือบางครั้งการเดินทางอาจจะไม่สะดวกมาก นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกที่จะเช่ารถแล้วขับเที่ยวเอง แต่ว่าอันที่จริงหลายคนอาจจะยังไม่ทราบมีบริการรถบัสนำเที่ยวตามรูทต่างๆด้วยค่ะ เช่นรถที่ออกจากเมือง Abashiri หรือเมือง Memanbetsu เป็นต้นค่ะ 

เวบไซต์สำหรับเรือนนำเที่ยวที่ Shiretoko (ภาษาอังฤษ)  
http://www.uu-hokkaido.info/corporate/goziraiwa.shtml

เวบไซต์สำหรับการเดินป่าไต่เขา บริเวณทะเลสาบ Shiretoko-go (英語)
https://www.japan-guide.com/e/e6853.html



04 ชมการแสดงทางวัฒนธรรม Yasakoi 
ในทุกๆปีที่เมือง Sapporo จะมีมหกรรมการแสดงประจำปีครั้งยิ่งใหญ่นั่นก็คือการร่ายรำเข้าจังหวะในแบบโบราณของญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วทั้งญี่ปุ่นเลยค่ะ 
 

http://japansocietyboston.org/event-2916058


 
http://visitkochijapan.com/things_to_do/events/yosakoi_festival.html

สำหรับการแสดงที่จะจัดในปีนี้นั้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 6-10 มิถุนายนค่ะ 
สานที่จัดงานจะอยู่ตามพื้นที่สาธารณะทั่วไปทั้งหมด 19 จุดค่ะ การแสดงจะเป็นการแสดงทางวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นของฮอกไกโดค่ะ ซึ่งนักเต้นจะแต่งกายอย่างสวยสดงดงามตามแบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแจมได้ค่ะ 
http://www.yosakoi-soran.jp/pdf/yosakoi_A3_en.pdf 
ข้อมูลภาษาไทย 
http://www.sapporo.travel/event/summer/yosakoi_soran_festival/?lang=th
http://www.sapporo.travel/cal/?lang=th


 

05 เที่ยวเกาะกลางทะเล อุทยานแห่งชาติ Rishiri-Rebun 

เกาะ Rishiri และ เกาะ Rebun นั้น 
มีปรากฏการณ์คลื่นกระทบชายฝั่งที่เป็นที่ตื่นตาตื่นใจอย่างมากในช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งแม้แต่คนญี่ปุ่นก็อยากไปสัมผัสกันสักครั้ง 
 

เกาะ Rishiri และ เกาะ Rebun นั้น 
มีปรากฏการณ์คลื่นกระทบชายฝั่งที่เป็นที่ตื่นตาตื่นใจอย่างมากในช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งแม้แต่คนญี่ปุ่นก็อยากไปสัมผัสกันสักครั้ง 
 
 
 



https://hataraku.com/blog/m-sakamoto/2017/02/post_842.php

 
https://nynokaze.exblog.jp/20013374/


นอกจากนี้ยังมีพืชพรรณไม้สวยๆออกดอกสวยงามอวดโฉม ที่หาชมได้เพียงระยะเวลาสั้นของช่วงหน้าร้อนเท่านั้น และนักท่องเที่ยวยังสามารถลิ้มลองอาหารทะเลนานาชนิดที่ขึ้นชื่อได้อีกด้วย เช่นเม่นทะเลหรือหอยเชลล์เป็นต้นค่ะ 




 

นอกจากนี้แล้วการเดินทางไปยังเกาะก็สะดวกสบาย เพราะมีเรือเฟอรรี่คอยให้บริการ ใช้เวลาในการเดินทางราวๆ 90 นาทีจาก Wakkanai หรือจะเดินทางอีกเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งก็ราวๆ 40 นาทีเท่านั้นค่ะ 
สำหรับช่วงฤดูการท่องเที่ยวของเกาะจะอยู่ประมาณราวๆเดือนมิถุนายน ซึ่งช่วงนี้เองจะมีเที่ยวบินตรงจากสนามบินโตเกียว ฮาเนดะ ไปยังเมือง Wakkanai 2 เที่ยวบินต่อวัน อีกด้วยค่ะ อ้อแล้วยังมีเที่ยวบินจาก Sapporo ไปยังสนามบิน Rishiri 1 เที่ยวบินต่อวันด้วยค่ะ 

 


 

นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ของเกาะ Rishiri อีกอย่างหนึ่งก็คือขนมที่มักถูกซื้อกลับมาเป็นของฝากอย่าง "Shiroikoibito" ที่เพื่อนเห็นข้างๆถุงนั้นแหละค่ะคือ ภูเขาไฟฟูจิแห่งเกาะ Rishiri 


 

https://ameblo.jp/megyu0904/entry-11917704123.html



อีกเกาะที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเกาะข้างๆอย่างเกาะ Rebun ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยาการธรรมชาติที่สดชื่น หรือดูเจ้าแมวน้ำนอนกลมๆริมชายฝั่งก็เพลินไปอีกแบบนะคะ 
 

rebun azarashi 01

https://blog.goo.ne.jp/kiyo1503/e/acac0e379809cf9cd84a1d6ed2d035dd



6 ของกินตามฤดูกาลของฮอกไกโด
 
หากพูดถึงฮอกไกโดแล้ว  หลายคนาจจะบอกว่า "ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี"  เป็นฤดูที่นอกจากจะสวยงามในแง่ของธรรมชาติแล้ว อาหารตามฤดูกาลในช่วงนี้เองก็อร่อยมากสุดๆ แต่อันที่จริงอาหารประจำฤดูร้อนในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง กรกฎาคมก็มีอาหารหลากหลายชนิดที่อร่อยไม่แพ้กันค่ะ เช่นหอยนางรม ปลากหมึก กุ้ง Hokkai หรือผลไม้อย่างเมล่อน เป็นต้นค่ะ 

Seafood 01


 
แม้แต่ในทะเลก็ยังมีร้านอาหารให้บริการ ที่นักท่องเที่ยวสามารถรับประทานอาหารที่กล่าวมาทั้งหมดได้อย่างสด ปรุงๆใหม่ ๆ และเด็ดที่สุดคือต้องเอามาย่างแบบบาร์บิคิวค่ะ 

 

โชคดีอย่างนะคะ หากใครที่พลาดโอกาสชมดอกซากุระที่เกียวโต หรือ โตเกียว เพราะช่วงเวลาที่ทั้งซากุระในพื้นที่อื่นๆทางใต้เริ่มร่วงหมดแล้ว ที่ฮอกไกโดกำลังจะเริ่มบานเลยค่ะ 
 

ยิ่งได้ทำบาร์บิคิวกับอาหารทะเลสด ๆ ชมดอกซากุระไปด้วย มันคือความฟินในความฟินเลยละค่ะ 


 


สำหรับการเดินทาง 
หากเป็นเที่ยวที่ ทะเลสาบ Akan หรือ อุทยานแห่งชาติอย่าง Kushiro-shitsugen สามารถเริ่มตั้งต้นได้จากเมือง Kushiro เดินทางประมาณ 47 นาทีค่ะ 
หรือจะนั่ง JR รถไฟเที่ยวธรรมดา ก็ประมาณ 50 นาทีค่ะ ราคาตั๋ว 930 เยน 
สำหรับข้อมูลการท่องเที่ยว Kushiro (ภาษาอังฤษ) http://en.kushiro-lakeakan.com/
การท่องเที่ยว Akke Town http://en.kushiro-lakeakan.com/sightseeing_around/4403/