Title : ทริปเช้าไปเย็นกลับจากโตเกียว
Rate this article :
จัดทริปเช้าไปเย็นกลับจาก Tokyo กันดีกว่าค่ะ 
ทริปที่จะมาแนะนำในวันนี้มีทั้งหมด 5 รูทค่ะ ซึ่งเหมาะกับการเที่ยวช่วง ราวๆเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนค่ะ 
สำหรับท่านที่พักในโตเกียวนั้น ท่านสามารถฝาสัมภาระไว้ที่โรงแรมและจัดทริปสั้นๆได้ค่ะ 
หลังจากที่ดอกซากุระเริ่มร่วงโรยไป แต่ไม่ได้หมายความว่าความงามของธรรมชาติของญี่ปุ่นจะหมดไปด้วยนะคะ หากใครออกไปนอกเมืองหน่อยก็จะได้พบความสวยงามของธรรมชาติได้ค่ะ 

1 เมือวอะขิคะงะ  (Ashikaga-shi) 

 ออกจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมง ก็สามารถมาท่องเที่ยวเมืองหลวงเก่าอย่างอะชิคะงะที่อยู่ในจังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) ที่เมืองแห่งนี้มีสถานที่หลายแห่งที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนที่เก่าแก่ทุ่ดในโลกอย่าง "โรงเรียนอะชิคะงะ" คะ  แต่ว่าไฮไลท์ที่เราอยากแนะนำจริงๆคือ สวนดอกไม้อชิคะงะ หรือ Ashikaga flower park นั่นแองค่ะ ซึ่งถือว่ามีชื่อเสียงมากๆแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นก็ว่าค่ะ  
การเดินทาง 
(สำหรับท่านที่มี JR pass) สามารถขึ้นรถได้ที่สถานที่อุเอะโน (Ueno Station) แล้วนั่งชินคันเซนมาลงที่สถานีโอะยะมะ (Oyama Station) (ประมาณ 36นาที) จากสถานีโอะยะมะก็นั่ง JR สาย Ryomo  มาลงที่สถานี Ashikaga Flower park ได้ค่ะ (ประมาณ20นาที)
(สำหรับท่านที่ไม่มี JR pass)
 สามารถขึ้นรถได้ที่สถานที่อุเอะโน (Ueno Station)  โดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย Hibiya มาลงที่ Kita-senju หลังจากนั้นนั่งรถไฟสาย Tobu  มาลงที่สถานีทะเทะบะยะชิ(Tatebayashi) จากนั้นก็นั่งรถไฟสายธรรมดามาลงที่สถานทีรถไฟ Ashikaga Flower park ได้ค่ะ 
แผนท่องเที่ยว 
อันดับแรกหากจะเดินทางออกโตเกียว เราจะมุ่งหน้าไปที่ Ashikaga Flower park และยิ่งเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมแล้วละก็ที่นี่จะสวยงามเป็นพิเศษค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ดอกวิสเทอเรียบานสะพรั่งอย่างเต็มที่ และถึงแม้ว่าช่วงปลายเดือนพฤษภาคมดอกวิสเทเรียจะเริ่มร่วงโรยแล้ว แต่ต้นเดือนมิถุนายนดอกไม้ชนิดอื่นๆก็เริ่มบานสะพรั่งแทนค่ะ อย่างดอกกุหลาบหรือดอกชาคุนะเงะ เป็นต้นค่ะ ซึ่งดอกไม้เหล่านี้จะถูกจัดเป็นสวนหลากสี หรือเป็นสีรุ้ง อย่างสวยสดงดงาม  และช่วงต้นเดือนมิถุนายนก็เป็นฤกูกาลของดอกไฮเดรนเจีย หรือดอกอะจิไซ (Ajisai) และดอกไอริสด้วยค่ะ เป็นสวนดอกไม้ที่เพลิดเพลินได้ทุกฤดูกาลจริงๆเลยค่ะ 
หลังจากที่ชมดอกไม้ชื่นใจกันแล้ว เราจะมุ่งหน้ากันไปต่อในเมืองอะชิคะงะ ( Ashikaga)  กันค่ะ เมือง อะชิคะงะที่ว่านี้ เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นค่ะ และมีโรงเรียนที่ว่ากันว่าเก่าที่สุดในโลกด้วยค่ะ และยังมีศาลเจ้าของสาวทอผ้าอีกด้วยต้องมาลองขอพรดูนะคะ จากนั้นราวๆ5โมงเย็นก็หาของกินอร่อยรับประทานแล้วกลับโตเกียวค่ะ  
หน้าเวบไซต์การท่องเที่ยวของสวนดอกไม้อะชิคะงะ เวอรั่นภาษาไทยค่ะ  https://www.ashikaga.co.jp/thailand/index.html


2.เที่ยวฮาโกเน่ (Hakone) ที่จังหวัดคะนะงะวะ (Kanagawa) 



ออกจากโตเกียวราวๆ 1 ชั่วโมงเพื่อนๆจะสามารถสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวะดับโลกได้แล้วค่ะ 
นทท.สามารถซื้อตั๋ว Odakyu ชนิดพิเศษเที่ยวรอบได้1วันเลยค่ะ 
หากซื้อตั๋วรถไฟสาย Odakyu ที่สถานีรถไฟโตเกียว (Tokyo Station) นนท.จะได้รับตั๋วชนิดผ่านเข้าต่อไปในฮาโกเน่ได้ค่ะ 



การวางแผนการท่องเที่ยว 
นั่งรถไฟสาย Odakyu ขบวน Romance car ที่สถานีรถไฟ Shinjuku  จากนั้นลงรถไฟที่สถานี Hakone-yumoto ที่อยู่บริเวณทางเข้า Hakone พอดีค่ะ จากนั้นนั่งรถไฟสาย Hakone Tozan ที่สถานี Hakone Yumoto (ประมาณ 84 นาทีค่ะ)  




เดือนมิถุนายนถือว่าเป็นเดือนที่เข้าสู่ฤดูผนอย่างแท้จริง ซึ้งช่วงนี้นี่เองดอกอะจิไซที่ปลูกไว้เรียบทางรถไฟจะแบ่งบานอย่างสวยสด ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆค่ะ
หลังจากนั่งชมบรรยาการรอบๆทางรถไฟในขณะที่รถไฟวิ่งผ่านแล้ว ตัวรถจะมาสิ้นสุดที่สานีปลายทางที่ชื่อว่าสถานีโกระ (Gora) จากสถานีนี้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเคเบิ้ลคาร์ไต่ภูเขาขึ้นไปยังสถานี โซอุนซัน (Sounzan) ในระดับความชันที่ชวนตื่นเต้นได้ค่ะ 



ก่อนท่ะนั่งเคเบิ้ลคาร์ เพื่อนๆสามารถนแวะไปเดินเล่นที่สวนสาะรณะ Hakone Gora park ได้ค่ะ แค่โชว์ตั๋วฟรีพาสก็สามารถเข้าได้แล้วค่ะ จากสถานี Sounzan ก็นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นมายังโอวะคุดะ Owakuda ค่ะ 



เมื่อเข้าไปในพื้นฮาโกเน่ สิ่งหนึ่งที่คนจะทราบทันทีนั่นก็คือไอร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน  และไข่ดำอันขึ้นชื่อที่สามารถหารับประทานได้ค่ะ





หลังจากที่เที่ยวชมความร้อนไอความร้อนภูเขาไฟใต้พื้นดินแล้ว จากนั้นก็มานั่งกระเข้าไปยังสถานีรถไฟ Togendai ค่ะ จากสถานี Togendai เราจะนั่งเรือนำเที่ยวท่องไปในทะเลสาบ Ashinoko แล้วไปที่เมืองเก่า Motohakone  กัน 
เมื่อถึงท่าเมืองเก่า Motohakone สิ่งแรกที่ทุกคนจะเห็นเลยนั่นก็คือสวนสาธารณะ Onshi และด่านชายแดนโบราณที่ตั้งอวดโฉมคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ค่ะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถรับเอกสารและเที่ยวชมหาความรู้ได้ค่ะ นอกจากนี้ในสวน Onshi ก็มีดอก Tsustuji ที่บานสวยสะพรั่งในช่วงเดือนพฤษภาคมด้วยค่ะ 






จากเมืองเก่า Motohakone ก็สามารถนั่งรถบัสประมาณ 30 นาทีมาลงที่ Hakone Yumoto ได้ค่ะ 
และจาก Hakone Yumoto ก็สามารถนั่ง Odakyu Romance กลับโตเกียวได้ค่ะ 
สำหรับตั๋ว Free pass นั้นจะใช้ได้ 2 วันค่ะ ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 5140 เยน รวมค่าโดยสารไปกลับสำหรับ Odakyu Romance 
แลตั๋ว  Free pass สามารถใช้กับรถไฟขึ้นเขา Tozan Line เคเบิ้ลคาร์ และกระเชาไฟฟ้า แบบไม่จำกัดด้วยค่ะ 
สำหรับรายละเอียดค่ะ 
เวบไซต์ Odakyu เวอร์ชั่นภาษาไทย http://www.odakyu.jp/thai/ 
บล๊อกเกี่ยวกับ Odakyu http://odakyuthai.namjai.cc/
ที่สถานีรถไฟชินจูกุ มีเจ้าหน้าที่คอยบริการภาษาไทยด้วยนะคะ 


3.เมืองซาวะระ (Sawara-shi) จังหวัดชิบะ (Chiba-ken)

ทริปเช้าไปเย็นกลับเที่ยวเมืองเก่าชมดอก อะยะเมะ (Ayame)
แผนท่องเที่ยว 
นั้งเจอาร์ที่สถสานีรถไฟอุเอโน มาที่สถานีรถไฟนาริตะ ประมาณ 80 นาที และจากสถานีนาริตะ สามารถต่อรถมาลงที่สถานีซาวะระได้ค่ะ (ใช่เวลารราวๆ 30นาที ค่าเดินาทางประมาณ 300 เยน)  จากสถานีซาวาระก็นั่งรถบัสมาลงที่ป้าย สวนอะยะเมะ ปาร์ค  ค่าระประมาณ 300 เยนค่ะ 
ดอกอะยะเมะราวๆ1แสน5หมื่นต้นจะพร้อมใจกันบาน ในช่วงเดือนมิถุนายนค่ะ 



ซึ่งภายในสวนที่เต็มไปด้วยดอกอะยะเมะที่บานสะพรั่ง จะมีบริการเรือภายชมวิงทิวทัศน์ของสวนด้วยค่ะ 
เมืองซะวะระเป็นเมืองที่มีการข่นส่งทางน้ำเป็นหลักที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่ครั้งอดีตเลยค่ะ และเป็นเมืองในญี่ปุ่นที่ยังคงรักษาแหล่งน้ำไว้เป็นอย่างดีซึ่งมีมาตั้งแต่ครั้งเอโดะค่ะ 



ในเมืองแห่งนี้นักท่องเที่ยวสามมารถเดินชมบ้านเมืองโบราณอย่างเพลิดเพลินเป็นชั่วโมงๆเลยค่ะ 
จากซะวะระก็สามารถเรียกแท็กซี่มาที่ศาลเจ้า Katori ซึ่งถือเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่หนึ่งในสามของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ 


ตัวศาลเจ้านั้นตั้งตระหง่านอยู่ในป่าลึก และเป็นศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานมากๆค่ะ 
จากนั้นก็สามารถเรียกแท็กซี่มาลงที่สถานีซะวะระ และนั่งรถไฟกลับโตเกียวได้ค่ะ 

4.ทริปสำรับเมืองยะมะนะชิ เที่ยวฟูจิคะวะคุจิโคะ เดือนพฤษภาคมค่ะ 



ก่อนที่เข้าสู่ช่วงฤดูฝน ลองมาเที่ยวที่เมืองยะมะนะชิ ทะเลสาบคะวะคุจิโคะ 
นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวรอบทะเลสาบที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเวลาเป็ฯการท่องเที่ยวในหนี่งวันที่น่าสนุกมากๆจริงไหมค่ะ 
สำรหับเวบไซต์การท่องเที่ยวของจังหวัดยายะมะนะชิ เพื่อนสามารถเข้าไปดูที่นี่เลยค่ะ  http://www.yamanashi-kankou.jp/thai/index.html
ว่ากันว่าภูเขาไฟฟูจิจะสวยที่สุดจะอยู่ช่วงก่อนเข้าหน้าฝนค่ะ สวยงามราวกับภาพวาดเลยก็ว่าได้ค่ะ 
โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษยาที่มีดอกซากุระชมพูไปทั่วบริเวณ นับว่าเป็นภาพที่สวยงามมากๆค่ะ และนอกจากนี้ยังมีงานฟูจิแฟร์ด้วยนะคะ 



ตั้งแต่ช่วงวันที่ 14 เดิอนเมษายน เรือยไปจนถึงวันที่ 27 พฤษภาคมค่ะ 
ภายในงาน จะมีร้านอาหารดังมาออกบูธมากมายค่ะ และมีร้านของฝากอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเป็นของฝากประจำฤดูกาลที่ไม่ได้มีขายตลอดๆด้วยนะคะ 
แผนท่องเที่ยว 
นั้งเจอาร์จากสถานี ชินจูกุ โดยรถไฟสายทกคิวมาลงสถานีโอสุกิ ประมาณ 60 นาทีค่ะ และจากสถานีรถไฟโอสึกิ สามารถต่อรถสาย Fujikyuko มาถึงสถานีรถไฟคะวะคุจิโกะได้ค่ะ โดยใช้เวลาทั้งหมดราวๆ 50 นาทีค่ะ 
หากเป็นช่วงวันเสาร์วันอาทิตย์ ที่สถานีรถไฟชินจูกุ จะมีรถไฟขบวนพิเศษให้บริการค่ะ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางราวๆ 2 ชั่วโมง 20 นาทีเท่านั้นเองค่ะ
สำหรับท่านไม่มีเจอาร์พาส  สามารถนั่งรถบัสจากสถานีขินจูกุมาคาวะคุจิโคะได้โดยตรงเลยค่ะ ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมงต่อเที่ยว 
เทศกาลดอกชิบะซะกุระ เวบไซต์เวอรั่นภาษาไทย  http://www.shibazakura.jp/thai/
หน้าเวบไซต์ภาษาไทย http://www.redlovetree.com/category/destination-japan/chubu/yamanashi/

หลังจากเที่ยวชมงานชิบะซากุระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เราจะวนกลับมาที่ริมทะเลสาบคะวะคุโคะได้ค่ะ 
จากสถานีรถไฟรถคะวะคุจิโคะ นั่งรถบัสประมาณ 15 นาทีมาที่ สวน Yagizaki Park



จากปลายเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป จนถึงราวๆเดือนมิถุนายนที่สสวนแห่งนี้จะมีทุ่งดอกลาเวนเดอร์ค่ะ 
และในวันที่ 1 มิถุนายนจะมีงานเทศกาลดอกลาเวนเดอ์ด้วยค่ะ 
และที่ริมทะเลสาบคะวะคุจิโคะ มีพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์อยู่เยอะแยะเลยค่ะ  
และที่สำคัญเพื่อนๆสามารถเข้าไปทัศนศึกษาก่อนได้ค่ะก่อนกลับโตเกียว 
เวบไซต์ของพิพิธภัณฑ์ค่ะ 

พิพิธภัณฑ์ Muse ค่ะ 
http://fuji.kawaguchikomusicforest.jp/th/

พิพิธภัณฑ์ KUBOTA ICHIKU KIMONO
http://www.itchiku-museum.com/

 
 5 เที่ยวชายฝั่งโชนัน นั่งรถไฟเรียบชายฝั่ง                                        เอโนะชิมะและคามาคุระ 

ที่ริมชายฝั่งโชนันมีรถไฟสายโลคอลให้บริการค่ะ ที่สามารถนั่งไปชมเมืองหลวงเก่าอย่างคะมะคุระได้ค่ะ 
ค่าโดยการก็ถูกมากๆค่ะ แพราะราคาค่าตั๋วถูกจัดการบริหารไม่ให้มีราคาแพง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวเป็นทริปไปกลับได้ในหนึ่งวันค่ะ 






บริเวณชายฝั่งจังหวัดคะนะกะวไปจนถึงโตเกียวนั้น มีทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วและการเดินทางก็สะดวกสบายค่ะ 
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือหรือทีอยู่อาศัย ก็ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นอย่างมากค่ะ 
นอกจากจนี้แล้วยังมีรถไฟฟ้ารางเบาอย่างโมโนเรล ที่เชื่อต่อการเดินรถกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ นับว่าสะดวกสบาย เหมาะกับการเดินทางของทริปในหนึ่งวันจริงๆค่ะ 
แพบนการท่องเที่ยว 
นั่งรถไฟฟ้าจาก ชินะกะวะ ด้วยรถไฟขบวนธรรมดามาที่ สถานีรถไฟฟูจิซาวะ (ใช้เวลาประมาณ 33 นาทีค่ะ ค่าโดยสารประมาณ 640 เยนค่ะ ) 
จากสถานีรถไฟโอฟุเนะ สามารถนั่งรถฟ้ารางเบาโมโนเรลมาที่ โชนัน เอะ โนะชิมะได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่าโดยสารราวๆ 310 เยน 
จากนั้นก็สามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้า ชมทิวเขาและบ้านเมืองได้ค่ะ 
ต่อไปมุ่งหน้าไปนั่งรถไฟสายโลคอลไปที่คะมะคุระกันค่ะ ใช้เวลาประมาณ 23 นาที ค่าโยสารราวๆ260 เยน 





ในขณะที่อยู่ชบวนรถไฟนั่งท่องเที่ยวสามารถชมวิวทะเลได้ค่ะ นอกจากนี้แล้วรถไฟยังวิ่งไปเหมือนเกือบจะสัมผัสหลังคาบ้านเรือนที่อยู่ริมทางเลยค่ะ 


และเมื่อมาถึงที่สถานีคะมะคุระแล้วสิ่งที่ไม่ทำไม่ได้เลยคือการแวะไป สัการะศาสเจ้า Tsurugaoka ซึ่งเปรียบเสมือนกับสัญลักษณ์ของเมืองก็ว่าได้ค่ะ 
ระหว่างทางเดินไปที่ศษลเจ้ามีร้านอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถแวะชิมอาหารได้ค่ะ .
และห่างขึ้นไปทางเหนือ(ด้าหลังของศาลเจ้า)ก็มีวัดโทเคอยู่อยู่ค่ะ 



ที่วัดแห่งนี้นี่เองที่มีชื่อเรียกอีกชื่อว่าวัดดอกอะจิไซ เพราะว่ามีดอกอาจิไซปลูกเยอะแยะเต็มไปหมดเลยค่ะ ห
ลังจากแวะที่วัดดอกอะจิไซ เราก็แวะนมัสกาลหลวงพ่อโตไดบุสสึ ที่วัดฮาเซะ จากนั้จึงนั่งรถไฟเอะโนเด็งกลับมาที่สถานีรถไฟคะมะคุระค่ะ 



ขากลับก็สะดวกสบาย เพราะสามารถนั่งเจอาร์จากคะมะคุระมาถึงชินะกะวะได้เลยค่ะ ประมาณ 720 เยน 
เวบไซต์การท่องเที่ยวรถไฟเอะโนเด็ง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นเวอร์ชั่นภาษาไทย  http://kamakura-enoshima-monorail.jp./thai/
ข้อมูลการท่องเที่ยวคะมะคุระ เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ https://www.enoden.co.jp/en/
ข้อมูลการท่องเที่ยวคะมะคุระ เวอร์ชั่นภาษาไทย  https://www.jnto.or.th/model-route/self-travel-5-to-7-days/all-around-fuji-view/5th-kanagawa/