ไปเก็บผลไม้ที่จังหวัดยามานาชิตั้งแต่เดือนมิถุนายน - เดือนตุลาคมกันค่ะ 
ในช่วงเวลาดังกล่ามีผลไม้ 4 ชนิดให้เก็บด้วยกัน!!

ไปดูกันดีกว่าว่ามีผลไม้ชนิดอะไรบ้าง
เดินทางจากโตเกียวไปทาง ตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 1 กิโลเมตรในรัศมีของโตเกียวเพื่อนๆก็จะได้พบกับภูเขาไฟฟูจิทะเลสาบคาวากูจิโกะซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไทยไปกันมากถึงมากที่สุด

โดยเฉพาะที่จังหวัดยะมะนะชินี้มีพลสวนผลไม้หลายสวนอยู่ด้วยกัน การไปชมสวนผลไม้และเก็บกินสดๆแล้ว  ถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความสุขความเพลิดเพลินได้อีกอย่างหนึ่ง สวนผลไม้ของญี่ปุ่นนั้นถือได้ว่ามีความแตกต่างจากประเทศไทยอยู่บ้างเพราะว่าสวนผลไม้เป็นผลไม้ในเขตเมืองหนาว 

  ผลไม้บางชนิดที่วางขายตามห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพ จะว่าไปบางชนิดเป็นผลไม้ที่สามารถซื้อหาทานได้ในราคาไม่แพงมากในประเทศญี่ปุ่น แต่พอมาขายที่เมืองไทยกลายเป็นว่ามีราคาค่อนข้างแพง (อาจจะเป็นเพราะค่าขนส่ง ค่าดูแลกว่าจะมาวางขายได้) 

  และที่จังหวัดยามานาชินี่เองมีสวนผลไม้อยู่เป็นจำนวนมากที่นักท่องเที่ยวสามารถกินในแบบไม่อั้นหรือกินแบบบุฟเฟ่นั่นเอง สำหรับผลไม้ที่เป็นที่นิยมอย่างมากนั่นก็คือ นั่นก็คือสตรอเบอรี่นั่นเองค่ะ 


อันที่จริงแล้วฤดูกาลเก็บเกี่ยวสตอเบอรี่นั้นจะสิ้นสุดลงประมาณช่วงปลายเดือนพฤษภาคมค่ะ
แต่ตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคมเป็นต้นไปก็มีผลไม้อื่่นๆ หลากหลายชนิดที่ว่ากันว่ามีราคาค่อนข้างแพงทีเดียวในท้องตลาดก็ให้ผลผลิตในช่วงนี้เช่นกัน

ซึ่งหากเพื่อนๆนั่งรถไฟจากสถานีชินจูกุ ก็สามารถไปยังสวนผลไม้ที่อยู่ท่ามกลางภูเขา และมีความสวยงามได้ค่ะ นอกจากมีความเพลิดเพลินและที่สำคัญยังสามารถกินได้ด้วยในเวลาเดียวกันค่ะ

 ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมจนถึงต้นเดือนกรกฎาคมไปเก็บเชอรี่กันค่ะ
สำหรับที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วการเก็บเกี่ยวผลไม้ที่ขึ้นชื่อที่สุดนะคะก็เห็นจะเป็นการเก็บลูกเชอรี่ค่ะ

ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นนั้นก็จะมีฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่แตกต่างกันไป และที่สำคัญฤดูกาลเก็บเกี่ยวนั้นก็แสนสั้นมีไม่ค่อยนานเท่าไหร่ค่ะ แต่ที่น่าสนุกนั้นก็คือว่าเมื่อถึงช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวเชอรี่แล้ว สวนเชอรี่ต่างๆจะคึกคักมากๆค่ะ โดยเฉพาะแถวภูมิภาคโทโฮคุ ในจังหวัดยะมะงะตะและจังหวัดฟุกุชิมะนั้นมีสวนขนาดใหญ่ที่ให้ผลผลิตเชอรี่ค่ะ
 และในรอบรอบเมืองหลวงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวนี้มีเพียงจังหวัดยามานาชิเท่านั้นที่มีสวนเชอรี่ได้เก็บกินค่ะ 





จากเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปไปเก็บบลูเบอรี่กันค่ะ
สำหรับผลผลิตของบลูเบอร์รี่ในจังหวัดยามานาชินั้นอยู่ทางฝั่งตะวันตกค่ะ ซึ่งเป็นที่ราบสูงและ และมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะบริเวณรอบรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะและบริเวณภูเขาไฟฟูจิค่ะ



บริเวณนี้จะ ปลูกบลูเบอร์รี่กันอย่างมากมาย และในตัวจังหวัดเองก็มีสวนที่ปลูกบลูเบอร์รี่อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะทางเขตที่ราบสูงและบริเวณทะเลสาบนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว เพื่อนๆยังสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บผลไม้ได้ด้วยค่ะ และในช่วงเวลานี้นี่เองบริเวณทะเลสาบคาวากูจิโกะและบริเวณทะเลสาบโอชิโนะฮักไก



สำหรับราคาก็ไม่แพงมากค่ะก็จะอยู่ 500 เยนจนถึง 1000 เยนค่ะสามารถกินได้ประมาณ 40 นาทีถ้าเพื่อนๆอยากจะไปเที่ยวก็แนะนำเป็นสถานที่ที่อยู่ตามลิงค์นี้เลยค่ะเพราะว่าถือได้ว่าเป็นเหมือนกับตัวแทนของสวนบลูเบอรี่ค่ะ






ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปจนถึงเดือนสิงหาคมไปเก็บลูกพีชกันค่ะ (ภาษาญี่ปึ่นเรีกยโมโมะ)

สำหรับญี่ปุ่นแล้วลูกพีชนั้นเป็นเสมือนผลไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อนค่ะ เพราะว่าสำหรับญี่ปุ่นแล้วลูกพีชที่จะ มีความหวานซึ่งสามารถหารับประทานได้ในช่วงเวลานี้เท่านั้น และที่จังหวัดยะมะนะชินี่เองก็เป็นแหล่งผลิตลูกพีชแหล่งใหญ่ของญี่ปุ่น ว่ากันว่าลูกพีชมากกว่า 30% นั้นถูกผลิตอยู่ที่จังหวัดยะมะนะชิแห่งนี้ค่ะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นก็ว่าได้ค่ะ



  โดยเฉพาะการรับประทานลูกพีชที่สุกคาต้นนั้น ถือว่าเป็นการรับประทานลูกพีชที่อร่อยที่สุดก็ว่าได้ค่ะ และที่กลางของจังหวัดนั้นมีสวนลูกพีชอยู่เป็นจำนวนมากค่ะ ซึ่งเพื่อนๆสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานและซื้อกลับมารับประทานยังที่พักได้ค่ะ


 
ราคานั้นก็ไม่แพงมากค่ะ 1 ชั่วโมงสามารถรับประทานได้ไม่อั้นตั้งแต่ 800 เยนจนถึง จนถึง 1500 เยนค่ะ ซึ่งหากเพื่อนๆต้องการทราบข้อมูล ติดตามได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ



ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงเดือนตุลาคมไปเก็บองุ่นกันค่ะ
จังหวัดยามานาชินอกจากจะเป็นแหล่งผลิตลูกพีชแหล่งสำคัญของญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตองุ่นที่สำคัญของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งอีกด้วย สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้ว ที่จังหวัดยะมะนะชิแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตองุ่นมากกว่า 1 ใน 4 ของผลผลิตทั้งประเทศญี่ปุ่นเลยก็ได้ว่าได้ค่ะ โดยเฉพาะบริเวณแถว Katsunuma นั้นว่ากันว่าเป็นแหล่งผลิตองุ่นชั้นดีของญี่ปุ่นหรือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขององุ่นแห่งญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ



เมื่อเข้าช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี พื้นที่ต่างๆที่ปลูกองุ่นนั้นก็จะเต็มไปด้วยแผงองุ่นอยู่เต็มบริเวณ ซึ่งองุ่นก็จะให้ผลผลิตสุดลูกหูลูกตาเลยก็ว่าได้ค่ะ สำหรับองุ่นที่ปลูกนั้นก็มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน และเมื่อถึงเวลาออกผลผลิตแล้วก็จะมีหลายๆพันธุ์ที่ให้ผลผลิตที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเก็บมารับประทานได้จากต้นสดๆเลยค่ะ

สำหรับราคาเฉลี่ยในการเข้าชมสวนองุ่น 
　
ช่วงเดือน สิงหาคมจะเป็นสายพันธุ์ธรรมดา 
ค่าเข้าสวน 800 เยน ถึง 900 เยน สามารถทานได้ไม่อั้น 40 นาที
 
　
ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป องุ่นสายพันธุ์ชั้นยอด นั่นคือพันธุ์ Kyo-ho และสายพันธุ์ Pione ค่ะ  


　
40 นาที ทานได้ไม่อั้น ค่าเข้าสวนจะอยู่ประมาณ 15000 เยนค่ะ 

　
หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามลิงค์นี้ค่ะ