Kamikochi เป็นพื้นที่ในเทือกเขาบริเวณเมือง Matsumoto  จังหวัด Nagano ซึ่งมีความสูงมากกว่า 1500 เมตรเลยทีเดียวค่ะ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย
ที่สำคัญรถส่วนตัวไม่ได้รับการอนุญาตให้ขับเข้าไปในพื้นค่ะ 
 

 

สะพาน Kappa ของ Kamikochi นั้น ถือว่าเป็นจุดขายเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะลงจากรถบัสขึ้นเขาก็สามารถเดินไปถ่ายรูปได้เลยไม่ถึง 5 นาที
เป็นจุดที่คึกคักมากๆค่ะ การเดินทางจากโตเกียวไปที่ Kamikochi 
 

โดยรถไฟ  นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟสาย Tokkyu ที่มีชื่อขบวนว่า "Azusa"  ได้จากสถานี Shinjuku แล้วไปลงที่สถานี Matsumoto ได้ค่ะ โดยใช้เวลาประมาณ 180 นาที 
 

แต่ถ้าเป็นรถไฟรุ่น Super Azusa จะใช้เวลาเพียง 150 นาที ค่าโดยสารอยู่ที่ 6,380 เยน 



 

 

จากสถานีรถไฟ Matsumoto ให้เปลี่ยนมานั่งรถไฟสาย Matsumoto มาลงที่สถานี Shinshima-shimaใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 30 นาที ค่าเดินทางประมาณ 700 เยน



 

จากสถานีรถบัส Shinshima-shima มายังสถานีรถไฟ Kamikochi ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ราคาค่าตั๋วโดยสารประมาณ 1,950 เยน 
 

หากนักท่องเที่ยยวเดินทางถึง Kamikochi ก็สามารถรับตั๋วขากลับเตรียมไว้ได้เลยนะคะ 

(ยิ่งช่วงหน้าร้อนมันคนเยอะมากๆค่ะ) 

การเดินทางค่ะ 

https://www.youtube.com/watch?v=6StxXNAXRxQ


 บึงTaisho 
 

สำหรับอีกสถานที่ในบริเวณก็คือบึงน้ำที่ชื่อว่า บึงTaisho ค่ะ ซึ่้งจุดนี้เป็นจุดไฮไลท์อีกจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปมากๆค่ะ และยิ่งเป็นวันไหนที่ลมสงบ
ภาพเงาของภูเขาที่สะท้อนผ่านผิวน้ำเป็นอะไรที่สวยงามมากๆค่ะ 

http://www.kamikochi.org/spot/taisho-pond


https://www.kamikouchi.info/en/kamikochi/


บึงMyojin
 

ไม่ไกลจากพื้นที่ในบริเวณเดียวกัน มีบึงน้ำอีกที่คือบึงMyojin ค่ะ ที่นี่มีสะพาน Kappa ที่มีความสูงถึว 1500 เมตร
ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามด้วยค่ะ หากใครชอบกิจกรรมเดินป่า ที่นี่ก็มีค่ะ สามารถเดินชมความของธรรมชาติไปเรื่อยๆ
จนถึงศาลเจ้า Hodaka ที่ว่ากันว่าเป็นสถิตของเทพเจ้าที่ดูแลป่านผืนนี้ค่ะ 
 

http://jpninfo.com/13733

https://www.kamikouchi.info/en/kamikochi/

https://en.japantravel.com/yamaguchi/myojin-pond-and-shrine/20250
 

ที่นี่มีคอร์สเดินป่านด้วยนะคะ ชื่อคอร์ส Hodaka-Yamanami

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินป่า จะได้เห็นภาพความสวยงามของที่ทอดตัวยาวของเทือกเขาด้วยค่ะ 

เมือง Matsumoto 

เมือง Matsumoto ถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นดับสอของจังหวัด Nagano ค่ะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟฟ้าสาย Chuo-line 
จากสถานีรถไฟ Shinjuku ได้ภายใน 2.30นาที จนถึง 3 ชั่วโมงได้ค่ะ 
 

https://yongpuitung.com/matsumoto
 

http://zh-tw.zekkeijapan.com/article/index/590/?language=zh-tw

สำหรับ Komikochi ในช่วงฤดูร้อนนั้น โรงแรมที่พักจะมีราคาค่อนข้างแพงค่ะ 

สำหรับใครอยากไปเที่ยวที่ Kamikochi ในช่วงนี้ แนะนำให้พักในเมือง Matsumoto ดีกว่าค่ะ 

ที่พักถูกกว่าและมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกๆด้วย เช่นปราสาท Matsumoto ที่เป็นมรดกแห่งชาติญี่ปุ่น 

และบ้านเมืองบริวาณที่มีความสวยงามเก่าแก่ที่อยู่รายล้อมตัวปราสาทค่ะ 

 

https://www.backpackers.com.tw/forum/map.php?discover&gtype=spot&gid=2852

http://footage.framepool.com/zh/shot/537409503-matsumoto-castle-moat-nagano-prefecture-castle-mansion

 

ออกนอกตัวเมือง Azumino ไปไม่ไกล นักท่องเที่ยวจะได้เจอกับพื้นที่การเกษตรสุดลูกหูลูกตา และเทือกเขาแอลป์ทอดยาวต่อกันไปเป็นฉากหลัง 
ซึ่งดูแล้วสวยงามเกินคำบรรยายค่ะ 
 

พูดถึงพื้นที่การเกษตร แถบบนี้ถือได้ว่าแหล่งผลิตวาซาบิและแอปเปิ้ลแหล่งใหญ่ของญี่ปุ่นก็ว่าได้ค่ะ 

หากเป็นฤดูร้อนก็จะมีวาซาบิ หากเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีแอปเปิ้ลค่ะ 

สำหรับการปลูกวาซาบินั้น จะปลูกบนน้ำโดยอาศัยลำธาร หรือแม่น้ำที่มีน้ำสะอาดไหลลงมาจากบนภูเขาค่ะ 

ด้วยความที่เป็นแหล่งเพาะปลูกวาซาบิแหล่งใหญ่จึงทำให้มีผลิตภัณฑ์อื่นๆที่แปรรูปจากวาซาบิมากมายค่ะ เช่นไอศครีมวาซาบิ 

เส้นโซบะรสวาซาบิเป็นต้นค่ะ 
 

 
http://www.azumino-e-tabi.net/sightseeing/daiowasabi

http://blog.udn.com/Joystick/3599854
 

พูดถึงวาซาบิไปแล้ว ต่อมาก็มาต่อกันที่แอป้ปิ้ลค่ะ 

บริเวณรอบๆ Hodaka นั้นจะมีสวนแอปเปิ้ลอยู่เรียงรายเต็มพื้นที่เลยค่ะ ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูออกผลแล้วละก็มองไปจะมีแต่สีแดงของลูกแอปเปิ้ลอยู่ทั่วบริเวณนับไม่หวาดไม่ไหวเลยค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถจ่ายค่าเข้าสวนและรับประทานได้แบบไม่อั้นเลยค่ะ เพียงแค่อย่าเอากลับเท่านั้นเองค่ะ 

http://azumino-herb.cocolog-nifty.com/blog/2010/10/post-1cfa.html
 

http://yamura-yasuke.club/?p=2161

สำหรับการพักค้างแรมที่เราอยากแนะนำ 

วันแรก 
 

จากสถานี Shinjuku นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟฟ้าขบวน Supper Azusa เที่ยวเวลา 8.00 น มาลงที่สถานี Matsumoto ได้ค่ะ โดยขบวนจะถึงเวลา 10.38 น ค่ะ 

และนักท่องเที่ยวสามารถหาโรงแรมใกล้กับสถานี และ ตูล๊อคเกอร์แบบหยอดเหรียญสำหรับฝากสำภาระได้ค่ะ  

นักท่องเที่ยวสามารถเพลินไปกับการเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ได้ค่ะ 

จากนั้นนักท่องเที่ยวสามารถมาที่สถานีรถบัส Kamikochi เที่ยวออกเวลา 17.25 น และถึง Shinshimashima ราวๆ 18.30 น
จากนั้นก็นั่งรถไฟสาย Matsumoto เที่ยวที่ออกเวลาประมาณ 18.42 น มาลงที่สถานี Matsumoto ได้ค่ะ 

วันที่สอง
 

หลังจากที่เอาสัมภาระฝากไว้ที่โรงแรมแล้วค่อยออกเดินทาง 

สำหรับรถไฟที่ออกสถานี Matsumoto เที่ยว 8 โมง 16 นาทีนั้น  จะเป็น JR สาย Ooito 

ซึ่งจะถึงสถานี Hodaka ในเวลา 8 โมง 44 นาที และนั่งแท็กซี่ไปไร่ Daio Wasabi ได้ค่ะ 

จากนั้นก็ขึ้นรถไฟที่สถานี Hodaka เที่ยวออกเวลา 11.13 น กลับมาที่ Matsumoto ถึงเวลา 11.45 น ได้ค่ะ 

จากสถานีรถไฟ Matsumoto  เดินประมาณ 1 กิโลก็สารถมาเที่ยวชมปราสาท Matsumoto ได้แล้วค่ะ 

หรือใครจะหาร้านอร่อยๆแถวนั้นทานกลางวันเลยก็ดีนะคะ  

ขากลับโตเกียว 
 

นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟสาย Azusa หมายเลข 24 เที่ยวเวลา 15.19 นาทีมาลงที่สถานี Shinjuku ได้ค่ะ 

สำหรับข้อมูลการท่องเที่ยว 

การท่องเที่ยวเมืองนากาโน่เวอร์ชั่้นภาษาไทย 

http://www.go-nagano.net/th/
 

เวบไซต์แนะนำการท่องเที่ยว kamikochi (ภาษาอังกฤษ) 

http://www.kamikochi.org/
 

ข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองมะสึโมโต้ ภาษาไทย