Title : 7 สถานที่ที่ไม่ควรพลาดใน Kyushu
Rate this article :
 
7 สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปใน Kyushu 
 
หากพูดถึงญี่ปุ่น หลายคนคงจะนึกถึงเมืองยอดฮิตตลอดกาลอย่าง Tokyo หรือ Kyoto Hokkkaido แต่หากพูดถึงถสานที่ท่องเที่ยวแถบๆฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
หลายคนคงไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ แต่อันที่จริงพื้นที่บริเวณแถบๆนี้ มีวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่มีเอกลักษณ์ และระยะหลังๆก็เริ่มเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้มาบ้างแล้ว 

 

https://www.nagasaki-tabinet.com/guide/955/


https://matome.naver.jp/odai/2139771973460909701/2139772729570035603


 
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังเมือง Fukuoka ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพราะว่ามีเที่ยวบินตรงที่สามารถเดินทางจากกรุงเทพไปยังเมือง Fukuokaได้ค่ะ 
และในแต่ละปีก็มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมา Fukuoka เพิ่มขึ้นเรื่อยๆค่ะ 
ในบทความนี้เราจึงอยากนำเสนอผู้อ่านเกี่ยวกับ 7 สถานที่ที่นักท่องเที่ยวควรไป  

 

1. เที่ยวถนนคลองปลาคาร์ฟที่ Shimabara จังหวัด Nagasaki
 

เมือง Shimabara ตั้่งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง Nagasaki ค่ะ เป็นเมืองที่อยู่ติดระหว่างทะเล และภูเขาไฟ Unzen ค่ะ
และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานนั่นเอง ที่เมือง Shimabara นี่มีปราสาท Shimabara และบ้านโบราณของนักรบด้วยค่ะ0
นอกจากนี้ยังมีน้ำแร่ธรรมชาติที่ผุดขึ้นมาจากอยู่ใต้ดิน 
 
สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว ปลาคาร์ฟถือเป็นสัตว์ที่ชาวญี่ปุ่นรักใครเอ็นดูมากๆค่ะ และจะไม่รังแก หรือว่าจับ(มาเล่น)ด้วยเครื่องมือต่างๆค่ะ 
นอกจากนี้ พื้นที่บรเวณรอบๆอ่าวๆ ชิมะบะระ ยังมีภูเขาไฟที่ยังคงไม่ดับสนิทอยู่ หรือที่รู้จักกันในชื่อภูเขา Unzen นั่นเองค่ะ ซึ่งบรรยากาศทั้งหมดนี้ 
ได้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองนี้ไปโดยปริยาย และที่สำคัญการเดินทางก็สะดวกมากๆค่ะ หากมาถึงเมือนางากซากิแล้ว
นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟขบวนท้องถิ่น ไปยังชิมะบะระ โดยผ่าน Isahaya ได้ค่ะ 
 



 
Shimabara 
https://www.jnto.or.th/newsletter/shimabara/
Nagasaki  
https://travel.at-nagasaki.jp/th/




2 หาของกินอร่อยๆ ในร้านรถเข็นแบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่น 

เมือง Fukuoka  ถือได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแถว Kyushu ค่ะ โดยในตัวเมืองนั้นจะมีย่านหนึ่งที่ชื่อว่า ย่าน Hakata  

ซึ่งเป็นย่านที่อยู่เรียบติดกับแม่น้ำ Nakagawa และร้านอาหารที่เป็นรถเข็น หรือ ในภาษาญี่ปุ่นเรียก "Yatai" อยู่เรียงรายเยอะมากๆค่ะ


https://yokanavi.com/gourmet/



 
 


 
สำหรับ "Yatai" ร้านอาหารที่เป็นรถเข็นที่ญี่ปุ่น เริ่มลดน้อยลงเรี่อยๆ บ้างก็ปรับเปลี่ยนกลายเป็นภัตราคาร แต่สำหรับที่ Hakata เอง ยังมีร้านรถเข็นอยู่เยอะมากๆค่ะ 
และที่สำคัญ ทุกๆร้านได้รับการตรวจสอบด้านสุขลักษณะอานามัยตามมาตรฐานญี่ปุ่นอย่างดีเลยค่ะ และได้กลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมเมืองได้เป็นอย่างดี 

 


https://yokanavi.com/th/
 
สำหรับอาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองต้องไม่พลาด นั่นก็คือ ราเมงหลากหลายชนิด โอเด้ง หม้อไฟประเภทต่างๆ เยอะมากๆค่ะ และเป็นอาหารที่คนทั่วไปสามารถทานได้ค่ะ 
อันที่จริงๆอาหารการกินที่ Hakata แห่งนี้สมบูรณ์แบบมากๆค่ะ หากเป็นพวกอาหารทะเลสดๆ หรือซูชิต่างๆ ก็มีภัตราคารมากมายเต็มไปหมด 
แต่ๆไหนๆ ก็เดินทางมาถึงที่นี้แล้ว ก็อยากให้ลองชิม "Yatai" หรือว่า ร้านรถเข็นนี่แหละค่ะ ได้ฟีลลิ่งมากกว่ายเยอะ 

การท่องเที่ยวฟุคุโอกะ
https://yokanavi.com/th/





3 เที่ยวผา Takachiho จังหวัด Miyazaki
 
รูปภาพประกอบ จาก
Miyazaiki Covention
 
ผาน้ำตก Takachiho  ว่ากันว่าเป็นสถานที่ของต้นกำเนิดและนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นหลายๆชนิดๆเลยค่ะ เพราะตำนานหรือนิทานหลายเรื่อง 
มักจะต้องมีบางตอนกล่าวถึงสถานที่แห่งนี้อยู่เสมอๆ ด้วยความสวยงามราวเมืองในเทพนิยาย จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมตั้งแต่สมัยโบราณมา 






 
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงที่นี้แล้ว สามารถเช่าเรือพาย เข้าไปดูใกล้ๆตัวน้ำตกได้ค่ะ 
และตั้งแต่วันที่  14 กรกฏาคมเป็นต้นไป จนถึงวันที่ 17 เดือนกันยายน ช่วงพลบค่ำก็จะมีการเปิดไฟแสงดีด้วยค่ะ ดูสวยงามมากๆเลย 



 
สำหรับการเดินทางมาผาน้ำตก Takachiho  นั้น ก็ง่ายๆมากๆค่ะ  
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถได้จากท่ารถในเมือง Hakata ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ 
หรือหากใครอยากจะมาแบบเช้าไปเย็นกลับ ก็สามารถออกแต่เช้าสัก 8 โมง และนั่งรถเที่ยวกลับประมาณ 16.40 กลับยัง Hakataได้คะ

วีดีโอสำหรับ Takachiho  ​




เวบไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยว Takachiho เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ
 http://takachiho-kanko.info/en/

 
4 ภูเขา Aso จังหวัด Kumamoto
ภูเขา Aso  เป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค Kyushu ค่ะ 
และตัว Caldera เอง (อังกฤษ: Caldera ลักษณะพื้นที่ที่เป็นแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาด) ก็นับได้ว่าใหญ่มากๆแห่งหนึ่งของโลกค่ะ 



และรอบๆ Caldera เริ่มมีการกระจายตัวของเรือกสวนไรนาชาวบ้าน และที่อยู่อาศัยเข้าไปทีละนิดแล้วค่ะ 


 

พื้นที่แถบนี้มีลักษณะทางกายภาพทางภูมิศาสตร์เป็นภูเขาไฟ จึงทำให้มีความร้อนปะทุออกมาจากพื้นดิน
และบางส่วนก็ปะทุออกมาอยู่ในรูปอบบของน้ำแร่ออนเซนและเป็นออนเซ็นแบบดั้งเดิมตามแบบของญี่ปุ่น 










หากใครอยากพักค้างคืนทามกลางธรรมชาติ สามารถนอนพักค้างแรมได้ที่ Aso Farmland ได้ค่ะ ซึ่งที่พักจะเป็นเต้นรูปโดม น่ารักมากๆค่ะ 


 

เวบไซต์แนะนำกสนท่องเที่ยวจังหวัด Kumamoto By JNTO
 
https://www.jnto.or.th/activities/all-around-japan/9-place-havefun-the-whole-family/dream-zone-aso-farm-land/

Home page
https://asofarmland.co.jp/lang/en/index.html
 
การท่องเทียวคุมะโมโต้ 
https://kumanago.jp/en/




 
5 เที่ยว Myoban เมือง Beppu จังหวัด Oita 



 
ที่เมือง Beppu จังหวัด Oita นั้น ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดแหล่งน้ำแร่ออนเซนของประเทศญี่ปุ่น 
ภายในพื้นที่นอกจาตัวน้ำแร่ที่พวยพุ่งออกมาจากใต้ดินแล้ว ยังมีดินโคลนที่ออกมากับน้ำแร่ที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุอยู่มากมาย 
ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า"Doro-yu" แปลว่าโคลนน้ำร้อน (โคลนจากน้ำแร่) นั่นเองค่ะ 




 
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องอยากลองสัมผัสกับ Doro-yu ก็สามารถเข้าใช้บริการได้ค่ะ 
อย่างที่ "Beppu Onsen Kenko land" ค่ะ ภายในบริเวณจะมีห้องแช่โคลนที่มีสีขาวขุ่นๆ และหลังคาเปิดโล่งรับลมธรรมชาติค่ะ 
ซึ่งการพอกร่างกายด้วยโคลนจากน้ำแร่นี้ เป็นวิธีธรรมชาติบำบัด ที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมของญีปุ่นค่ะ และได้รับความนิยมสืบมาจนถึงปัจจุบัน 




 

ในเขตแหล่งน้ำแร่ออนเซน Myoban มีร้านขายของฝาก "Okamotoya-Baiten" 
ที่วางขายสินค้าเช่นไข่นึ่งออนเซนหรือพุดดิ้่งค่ะ 














 
สำหรับการเดินทางไปยังเมือง Beppu นั้น สามารถเดินทางได้ตามรูทด้านล่างตามลิงค์ข้อมูลภาษาไทยนี้่เลยค่ะ 

ข้อมูลการท่องเที่ยวเมือง Beppu  เวอร์ชั่นภาษาไทย 
http://www.gokuraku-jigoku-beppu.com/languages/thai


 
6 เมือง  Karatsu จังหวัด Saga
จังหวัด Saga เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ได้รัยความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยค่ะ 
และเมืองบริวาณรอบๆปราสาทอย่างเมือง Karatsu ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวควรไปเยือนค่ะ 


 
ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน ที่เมืองจะมีการจัดเทศกาล Karatsu kunchi  ในงานจะมีการแห่รถเข็นประดับเครื่องเคลือบที่ทำเป็นรูปต่างๆ 
สีสันสวยงามค่ะ ซึงรถเข็นที่แห่ในขบวนจะจอดไว้ในเมืองให้นักท่องเที่นยวได้ชมค่ะ 




วิดีโอสำหรับงาน Karatsu kunchi 
 
เวบไซต์การท่องเที่ยว Saga เวอร์ชั่นภาษาไทย 
https://www.asobo-saga.jp/th/


 
7.เที่ยว Yakushima ในจังหวัด Kakoshima 


 
ที่ Kakoshima  มีเกาะที่ชื่อว่า Yakushima  ซึ่งเกาะนี้ทั้งเกาะ 70 % เป็นพื้นที่ป่า 
และเป็นเกาะที่ที่มีภูเขาสูง 1000 เมตร ถึง 2000 เมตรเป็นทิวยาวไปเรื่อยๆ 
และที่สำคัญภายในป่า ยังมีต้นเซดาร์ญี่ปุ่นที่มีอายุมากกว่า 7000 ปีอีกด้วย 




 
เป็นอีกสถานที่ที่เหมาะแก่การเดินป่ามากค่ๆ นอกจากนี้ภายในตัวเมืองยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุมากมาย 
หากใครชื่นชอบธรรมชาติ อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันสักครั้งนะคะ 
 
เวบไซต์การท่องเที่ยว Kakoshima เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ
http://www.kagoshima-kankou.com/for/
https://japan-magazine.jnto.go.jp/en/1503_yakushima.html