7 สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปใน Kyushu
หากพูดถึงญี่ปุ่น หลายคนคงจะนึกถึงเมืองยอดฮิตตลอดกาลอย่าง Tokyo หรือ Kyoto Hokkkaido แต่หากพูดถึงถสานที่ท่องเที่ยวแถบๆฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
หลายคนคงไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ แต่อันที่จริงพื้นที่บริเวณแถบๆนี้ มีวัฒนธรรมเฉพาะตัวที่มีเอกลักษณ์ และระยะหลังๆก็เริ่มเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้มาบ้างแล้ว
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังเมือง Fukuoka ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพราะว่ามีเที่ยวบินตรงที่สามารถเดินทางจากกรุงเทพไปยังเมือง Fukuokaได้ค่ะ
และในแต่ละปีก็มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมา Fukuoka เพิ่มขึ้นเรื่อยๆค่ะ
ในบทความนี้เราจึงอยากนำเสนอผู้อ่านเกี่ยวกับ 7 สถานที่ที่นักท่องเที่ยวควรไป
1. เที่ยวถนนคลองปลาคาร์ฟที่ Shimabara จังหวัด Nagasaki
เมือง Shimabara ตั้่งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง Nagasaki ค่ะ เป็นเมืองที่อยู่ติดระหว่างทะเล และภูเขาไฟ Unzen ค่ะ
และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานนั่นเอง ที่เมือง Shimabara นี่มีปราสาท Shimabara และบ้านโบราณของนักรบด้วยค่ะ0
นอกจากนี้ยังมีน้ำแร่ธรรมชาติที่ผุดขึ้นมาจากอยู่ใต้ดิน
สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว ปลาคาร์ฟถือเป็นสัตว์ที่ชาวญี่ปุ่นรักใครเอ็นดูมากๆค่ะ และจะไม่รังแก หรือว่าจับ(มาเล่น)ด้วยเครื่องมือต่างๆค่ะ
นอกจากนี้ พื้นที่บรเวณรอบๆอ่าวๆ ชิมะบะระ ยังมีภูเขาไฟที่ยังคงไม่ดับสนิทอยู่ หรือที่รู้จักกันในชื่อภูเขา Unzen นั่นเองค่ะ ซึ่งบรรยากาศทั้งหมดนี้
ได้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองนี้ไปโดยปริยาย และที่สำคัญการเดินทางก็สะดวกมากๆค่ะ หากมาถึงเมือนางากซากิแล้ว
นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟขบวนท้องถิ่น ไปยังชิมะบะระ โดยผ่าน Isahaya ได้ค่ะ
Shimabara
Nagasaki
2 หาของกินอร่อยๆ ในร้านรถเข็นแบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่น
เมือง Fukuoka ถือได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแถว Kyushu ค่ะ โดยในตัวเมืองนั้นจะมีย่านหนึ่งที่ชื่อว่า ย่าน Hakata
ซึ่งเป็นย่านที่อยู่เรียบติดกับแม่น้ำ Nakagawa และร้านอาหารที่เป็นรถเข็น หรือ ในภาษาญี่ปุ่นเรียก "Yatai" อยู่เรียงรายเยอะมากๆค่ะ
https://yokanavi.com/gourmet/
สำหรับ "Yatai" ร้านอาหารที่เป็นรถเข็นที่ญี่ปุ่น เริ่มลดน้อยลงเรี่อยๆ บ้างก็ปรับเปลี่ยนกลายเป็นภัตราคาร แต่สำหรับที่ Hakata เอง ยังมีร้านรถเข็นอยู่เยอะมากๆค่ะ
และที่สำคัญ ทุกๆร้านได้รับการตรวจสอบด้านสุขลักษณะอานามัยตามมาตรฐานญี่ปุ่นอย่างดีเลยค่ะ และได้กลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมเมืองได้เป็นอย่างดี
สำหรับอาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองต้องไม่พลาด นั่นก็คือ ราเมงหลากหลายชนิด โอเด้ง หม้อไฟประเภทต่างๆ เยอะมากๆค่ะ และเป็นอาหารที่คนทั่วไปสามารถทานได้ค่ะ
อันที่จริงๆอาหารการกินที่ Hakata แห่งนี้สมบูรณ์แบบมากๆค่ะ หากเป็นพวกอาหารทะเลสดๆ หรือซูชิต่างๆ ก็มีภัตราคารมากมายเต็มไปหมด
แต่ๆไหนๆ ก็เดินทางมาถึงที่นี้แล้ว ก็อยากให้ลองชิม "Yatai" หรือว่า ร้านรถเข็นนี่แหละค่ะ ได้ฟีลลิ่งมากกว่ายเยอะ
รูปภาพประกอบ จาก
Miyazaiki Covention
ผาน้ำตก Takachiho ว่ากันว่าเป็นสถานที่ของต้นกำเนิดและนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นหลายๆชนิดๆเลยค่ะ เพราะตำนานหรือนิทานหลายเรื่อง
มักจะต้องมีบางตอนกล่าวถึงสถานที่แห่งนี้อยู่เสมอๆ ด้วยความสวยงามราวเมืองในเทพนิยาย จึงทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมตั้งแต่สมัยโบราณมา
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงที่นี้แล้ว สามารถเช่าเรือพาย เข้าไปดูใกล้ๆตัวน้ำตกได้ค่ะ
และตั้งแต่วันที่ 14 กรกฏาคมเป็นต้นไป จนถึงวันที่ 17 เดือนกันยายน ช่วงพลบค่ำก็จะมีการเปิดไฟแสงดีด้วยค่ะ ดูสวยงามมากๆเลย
สำหรับการเดินทางมาผาน้ำตก Takachiho นั้น ก็ง่ายๆมากๆค่ะ
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถได้จากท่ารถในเมือง Hakata ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
หรือหากใครอยากจะมาแบบเช้าไปเย็นกลับ ก็สามารถออกแต่เช้าสัก 8 โมง และนั่งรถเที่ยวกลับประมาณ 16.40 กลับยัง Hakataได้คะ
วีดีโอสำหรับ Takachiho
เวบไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยว Takachiho เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ
http://takachiho-kanko.info/en/
4 ภูเขา Aso จังหวัด Kumamoto
ภูเขา Aso เป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค Kyushu ค่ะ
และตัว Caldera เอง (อังกฤษ: Caldera ลักษณะพื้นที่ที่เป็นแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาด) ก็นับได้ว่าใหญ่มากๆแห่งหนึ่งของโลกค่ะ
และรอบๆ Caldera เริ่มมีการกระจายตัวของเรือกสวนไรนาชาวบ้าน และที่อยู่อาศัยเข้าไปทีละนิดแล้วค่ะ
พื้นที่แถบนี้มีลักษณะทางกายภาพทางภูมิศาสตร์เป็นภูเขาไฟ จึงทำให้มีความร้อนปะทุออกมาจากพื้นดิน
และบางส่วนก็ปะทุออกมาอยู่ในรูปอบบของน้ำแร่ออนเซนและเป็นออนเซ็นแบบดั้งเดิมตามแบบของญี่ปุ่น
หากใครอยากพักค้างคืนทามกลางธรรมชาติ สามารถนอนพักค้างแรมได้ที่ Aso Farmland ได้ค่ะ ซึ่งที่พักจะเป็นเต้นรูปโดม น่ารักมากๆค่ะ
เวบไซต์แนะนำกสนท่องเที่ยวจังหวัด Kumamoto By JNTO
การท่องเทียวคุมะโมโต้
5 เที่ยว Myoban เมือง Beppu จังหวัด Oita
ที่เมือง Beppu จังหวัด Oita นั้น ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดแหล่งน้ำแร่ออนเซนของประเทศญี่ปุ่น
ภายในพื้นที่นอกจาตัวน้ำแร่ที่พวยพุ่งออกมาจากใต้ดินแล้ว ยังมีดินโคลนที่ออกมากับน้ำแร่ที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุอยู่มากมาย
ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า"Doro-yu" แปลว่าโคลนน้ำร้อน (โคลนจากน้ำแร่) นั่นเองค่ะ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องอยากลองสัมผัสกับ Doro-yu ก็สามารถเข้าใช้บริการได้ค่ะ
อย่างที่ "Beppu Onsen Kenko land" ค่ะ ภายในบริเวณจะมีห้องแช่โคลนที่มีสีขาวขุ่นๆ และหลังคาเปิดโล่งรับลมธรรมชาติค่ะ
ซึ่งการพอกร่างกายด้วยโคลนจากน้ำแร่นี้ เป็นวิธีธรรมชาติบำบัด ที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมของญีปุ่นค่ะ และได้รับความนิยมสืบมาจนถึงปัจจุบัน
ในเขตแหล่งน้ำแร่ออนเซน Myoban มีร้านขายของฝาก "Okamotoya-Baiten"
ที่วางขายสินค้าเช่นไข่นึ่งออนเซนหรือพุดดิ้่งค่ะ
สำหรับการเดินทางไปยังเมือง Beppu นั้น สามารถเดินทางได้ตามรูทด้านล่างตามลิงค์ข้อมูลภาษาไทยนี้่เลยค่ะ
ข้อมูลการท่องเที่ยวเมือง Beppu เวอร์ชั่นภาษาไทย
6 เมือง Karatsu จังหวัด Saga
จังหวัด Saga เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ได้รัยความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยค่ะ
และเมืองบริวาณรอบๆปราสาทอย่างเมือง Karatsu ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวควรไปเยือนค่ะ
ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน ที่เมืองจะมีการจัดเทศกาล Karatsu kunchi ในงานจะมีการแห่รถเข็นประดับเครื่องเคลือบที่ทำเป็นรูปต่างๆ
สีสันสวยงามค่ะ ซึงรถเข็นที่แห่ในขบวนจะจอดไว้ในเมืองให้นักท่องเที่นยวได้ชมค่ะ
วิดีโอสำหรับงาน Karatsu kunchi
เวบไซต์การท่องเที่ยว Saga เวอร์ชั่นภาษาไทย
7.เที่ยว Yakushima ในจังหวัด Kakoshima
ที่ Kakoshima มีเกาะที่ชื่อว่า Yakushima ซึ่งเกาะนี้ทั้งเกาะ 70 % เป็นพื้นที่ป่า
และเป็นเกาะที่ที่มีภูเขาสูง 1000 เมตร ถึง 2000 เมตรเป็นทิวยาวไปเรื่อยๆ
และที่สำคัญภายในป่า ยังมีต้นเซดาร์ญี่ปุ่นที่มีอายุมากกว่า 7000 ปีอีกด้วย
เป็นอีกสถานที่ที่เหมาะแก่การเดินป่ามากค่ๆ นอกจากนี้ภายในตัวเมืองยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุมากมาย
หากใครชื่นชอบธรรมชาติ อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันสักครั้งนะคะ
เวบไซต์การท่องเที่ยว Kakoshima เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ