สำหรับขนมญี่ปุ่นนั้น มีอยู่มากมายหลากหลายชนิด และวางขายตามร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายขนมโดยเฉพาะก็มีค่ะ
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อได้อย่างสะดวกสบายมาก ๆ อย่างขนม KIT-KAT ที่ใครๆก็รู้จัก เป็นแบรนด์จากประเทศอังกฤษ
แต่ญี่ปุ่นกลับนำมาแตกยอดปรับเปลี่ยนรสชาติ และเพิ่มรสชาติใหม่ๆ เหมือนกลายเป็นชนมญี่ปุ่นไปเลยค่ะ
สำหรับญี่ปุ่นจะแบ่งประเภทของขนมเป็น 2 แบบใหญ่ๆค่ะ
1 คือขนมที่มาจากต่างประเทศ (ส่วนใหญ่ที่มาจากฝรั่ง) จะเรียกรวมๆว่า Yo-gashi ( ขนมฝรั่ง )
2. ขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น จะเรียกว่าา (Wa-Gashi)
ลักษณะของขนมญี่ปุ่นนั้น จะมีส่วนผสมหลักเป็นแป้งข้าวจ้าว ถั่วแดง และ Kanten หรือวุ้นใสๆ
ที่ทำมาจากสาหร่ายทะเลค่ะ หรือเรียกอีกชื่อก็คือเอก้าค่ะ
หากจะยกตัวอย่างขนมไทยที่มีความเหมือนกับขนมญี่ปุ่น ก็มีหลายชนิดมากๆค่ะ
ที่เด่นชัดๆมากๆเลยก็คือ ขนมชั้น หรือลูกชุบเป็นต้นค่ะ
ดั้งนั้น อาจจะกล่าวได้ว่า คนไทยย่าจะเข้าใจรสชาติขนมของญี่ปุ่นอย่างดีเยี่ยมกว่าประเทศไหน ๆเพราะเรามีอะไรคล้ายๆกัน
ที่โตเกียวก็มีร้านขายขนมของญี่ปุ่นมากมายที่เป็นขนมแบบดั้งเดิมค่ะ
อย่างร้านที่มือชื่อว่า Doraya ที่เป็นขนมที่เป็นลักษณะวุ้นใสๆ ข้างในเป็นรูปท้องฟ้าและก้อนเมฆลอยอยู่ ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า
คุโมะมิเน (Kumomine) หรือ ถ้าเป็นรูปลาลอยอยู่ก็จะเรียกว่า วะคะบะคะเงะ (Wakabakage)
น่ารักดีนะคะ ดูเย็นๆ สดชื่นๆ
หน้าเวบไซต์ของทางร้านค่ะ
สาขาที่กินซ่าหรือที่ Asakusa ก็มีนะคะ แวะหาซื้อได้ง่ายๆค่ะ
Kumine
Kumine
Wakabakage
กลับมาที่ขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่นหรือ วะกะชิ กันต่อ ขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่นนั้น หลายๆอย่างมีต้นกำเนิดจากเกียวโตค่ะ
อย่างชนิดที่ทำมาจากจากการบรรจุกระบอกไม้ไผ่ หรือเรียกว่า ทะเกมิสึโยคัง (Takemizu-youkan)
เป็นขนมที่ผลิตเฉพาะในฤดูร้อน และขายดีอย่างมากชนิดหนึ่ค่ะ
Takemizu-youkan
Takemizu-youkan
หรือ อีกชนิดอย่าง Mizu-Yokan ที่ทำมาจากถั่วแดงผสมวุ้นแล้วแช่เย็นในกระบอกไม้ไผ่อ่อนค่ะ
ขนมฤดูร้อนที่มีหลายอย่างที่เปรียบเสหมือนขนมของเกียวโตเลยก็ว่าได้ และมีหลายร้านที่ผลิตและจำหน่ายเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อได้ๆ ในร้านค้าในสถานีรถไฟโตเกียว หรือห้างสรรพสินค้าในเมืองเกียวโตค่ะ
ขนมอีกบางชนิดที่มีชื่อเสียงในฐานะขนมประจำฤดูร้อนอย่างมากเลยก็คือ ขนม Mizushingen อันมีชื่อเสียงของจังหวัด Yamanashi
การทำขนมชนิดนี้นับว่ามีวิธีการที่ยุ่งยากมากมายหลายขั้นตอนมากๆเลยคะ เช่นการนำน้ำแร่ธรรมชาติบนภูเขาสูง มาทำให้จับตัวเป็นก้อนใสๆ
โดยผงวุ้นที่ทำจากสาหร่ายค่ะ และที่สำคัญต้องซื้อภายในวันนั้นและรับประทานในวันนั้นเลยค่ะ
ด้วยเหตุนี้่จึงทำให้ผู้ที่หลงใหลในขนมชนิดนี้หลายคน ลงทุนเดินทางมายังร้าน KONSEI-KEN
เพื่อรับประทานขนมชนิดนี้ค่ะ นอกจากจะสวยแล้วยังได้รับความนิยมในต่างประเทศด้วยนะคะ
วิดีโอ
สำหรับการรับประทานก็จะทานคู่กับ น้ำตาลมัสโควาโด (muscovado sugar ) และผงถั่วเหลืองคั่วค่ะ
หากนักท่องเที่ยวมาถึงร้าน KONSEI-KEN รับรองได้ว่ามีเพียงร้านนี้ร้านเดียวเท่านั้น ที่มีน้ำแร่ที่ไหลมาจากภูเขา
อีกขนมที่อยากแนะนำคือ ขนมที่มีชื่อว่า คุสุกิริ (Kuzukiri) ค่ะ ซึ่งเป็นขนมที่ทำมาจากวัตถุดิบที่แตกต่างจากขนมญี่ปุ่นชนิดอื่น
คำว่า คุสุ (Kuzu) นั้นมาจากพืชชนิดหนึ่งซึ่งเป็นพืชล้มลุกโดยใช้รากมันมาทำเป็นผงค่ะ จากนั้นก็นำมาต้ม แล้วทิ้งไว้ให้เย็นและมันก็กลายเป็นลักษณะคล่ายเยลลี่ค่ะ
จากนั้นก็เติมน้ำตาลมัสโควาโดและผสมน้ำเชื่อมเล็กน้อ จากนั้นก็คีบรับประทานด้วยตะเกียบได้ค่ะ
หากเป็นสมัยก่อนนานมาแล้ว ขนมชนิดนี้ได้รับความนิยมทั่วประเทศญี่ปุ่นค่ะ แต่ยุคสมัยผ่านไปเริ่มผลิตกันน้อยลง
และกลายเป็นขนมที่หารับประทานได้ยากไปในที่สุด
แต่ที่จังหวัด Ishikawa เมือง Kanazawa มีร้านเก่าแก่อยู้ร้านหนึ่ง มี่ความเก่าแก่ถึง 400 กว่าปี ชื่อร้าน โมะริฮะจิ (Morihachi)
ซึ่งขนมคุสุกิริ ของร้านนี้นับได้ว่าเป็นรสชาติดั้งเดิมแบบพิเศษกันเลยทีเดียวค่ะ
https://www.morihachi.co.jp/
สำหรับขนมประจำฤดูร้อนก็ยังมีอีกนะคะ
สำหรับเดือนมิถุนายน จนถึงเดือน กันยายนเป็นต้นไป หากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น
ก็อย่าลืมแวะเที่ยวร้านขนมประจำฤดูร้อนดั้งเดิมของญี่ปุ่นนะคะ
タイ人の為の訪日旅行サイト Madoo Japan . com
