Title : เที่ยวตอนใต้โทโฮคุ เมืองไอสึ เมืองคิตะคะตะ เมืองโยเนซะว่า
Rate this article :
เที่ยวตอนใต้โทโฮคุ เมืองไอสึ เมืองคิตะคะตะ เมืองโยเนซะว่า

ในครั้งนี้นะคะ เราจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเมืองไอสึในจังหวัดฟุคุชิมะ และเมืองโยเนซาว่าในจังหวัดยามะงะตะ เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิ
ซึ่งบริษัทท่องเที่ยวในกรุงเทพหลายแห่งได้นำเสนอแพ็คเกจทัวร์ของสถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวไหนน่าเที่ยวบ้าง ซึ่ง MadooJapan ได้รวบรวมเอาไว้แล้วค่ะ




ในครั้งนี้นะคะ เราจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเมืองไอสึในจังหวัดฟุคุชิมะ และเมืองโยเนซาว่าในจังหวัดยามะงะตะ เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิ
ซึ่งบริษัทท่องเที่ยวในกรุงเทพหลายแห่งได้นำเสนอแพ็คเกจทัวร์ของสถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวไหนน่าเที่ยวบ้าง ซึ่ง MadooJapan ได้รวบรวมเอาไว้แล้วค่ะ






นักท่องเที่ยวสามารถริ่มต้นการเดินทางไปไอสึ และ โยเนซาว่า ได้ที่สถานี  Tobu-Asakusa โดยระหว่างเส้นทางนั้น เราสามารถแวะเที่ยวมรดกโลกอย่างนิกโก้ได้ด้วยนะคะ
ด้วยเวลาเพียง 2 ชั่วโมงเศษจากโตเกียว ด้วยเวลาเพียงเท่านี้แต่สามารถดื่มด่ำกับความสวยงามทางธรรชาติและประวัติศาสตร์เต็มอิ่ม นับว่าคุ้มมากๆเลยค่ะ 。

FB Page ของ Tobu Railway https://www.facebook.com/tobugroup.th
Wesite เวอร์ชั่นภาษาไทย    https://www.tobujapantrip.com/th/?fbclid=IwAR2fbG1Iy_0oX1S9G7qqzMDrRLY5RyJuyOpPLlISQApkwIzwdBJkr5CvAFg






แผ่นพับเกี่ยวกับการท่องเที่ยวนิกโก้ภาคภาษาไทย
https://www.city.nikko.lg.jp/hisho/gyousei/shisei/nikko_brand/documents/thai.pdf





สำหรับสถานที่พักที่เราอยากแนะนำก็คือ ออนเซน Kinugawa kawaji ซึ่งเดินทางจากนิกโก้ราวๆ 35 นาทีค่ะ
ความพิเศษของออนเซนแห่งนี้ก็คือ แหล่งออนเซนขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาและแม่น้ำ Kinugawa และเป็นทางผ่านไปที่เมืองไอสึด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีที่พักเรียงรายตลอดแนวเส้นทางด้วย







จากสถานี Tobu-kinugawa นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปยัง Aizu Wakamatsu ซึ่งถือเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองของภูมิถาคไอสึ ไฮไลท์ของเมืองนี้ก็คือ
ปราสาท Tsurugaoka ที่ตั้งอยู่กลางเมืองและรายล้อมไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่งในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงไฮซีซันของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ 






เมือง Aizu Wakamatsu เป็นเมืองที่เคยมีซามุไรทำงานในปราสาทจริงๆนะคะ
และมีสถาบันสอนวิชาทั้งบุ๋นและบู้ให้กับลูกหลานซามุไร ที่เรียกว่า NISSHINNKAN อีกด้วย
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเรียนรู้เรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับซามุไรได้ที่นี่เช่น การยิงธนู เป็นต้น

หลังจากที่เราเที่ยวชมเมือง Aizu Wakamatsu เสร็จสิ้นแล้ว เรายังสามารถเที่ยวต่อบริเวณรอบๆเมืองได้ด้วยนะคะ
นอกจากจากนี้เส้นทางจากออนเซน Kinugawa ไปยังเมือง Wakamatsu ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้อีก 2 แห่งค่ะ 






นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม อย่าง TONO HETSURI และบ้านเมืองสมัยเอโดะ ที่ยังหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันอย่าง
OUCHI-JYUKU และช่วงที่สวยงามที่สุดจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ






และที่เราอยากแนะนำให้ไปพักมากๆเลยก็คือ ออนเซน ASHINOMAKI ในเมือง Aizu Wakamatsu
เพราะนักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับความเขียวขจีของพืชพันธุ์ป่าไม้ระหว่างที่เราออนเซนชิลๆ และที่น่ารักมากๆเลยคือเจ้าเหมียวที่สถานีรถไฟ ASHINOMAKI ที่ทำหน้าที่เป็นนายสถานี น้องตั้งใจทำงาน ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองมากๆค่ะ








หลังจากที่พักดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติกันที่ออนเซน ASHINOMAKI ในเมือง Aizu Wakamatsu แล้ว ต่อไปก็มุ่งหน้าสู่เมือง KITAKATA
ซึ่งเป็นเมืองที่มียุ้งฉางเก่าๆ (ภาษาญี่ปุ่นเรียกยุ้งฉาง หรือ โกดังในสมัยก่อนว่า KURA) หลงเหลืออยู่เต็มเมืองเลยค่ะ และของขึ้นชื่อมากๆอีกอย่างของเมืองนี้ก็คือ น้ำซุปราเม็งคิตะคะตะ ที่ปรุงมาจากโชยุ ภายในย่านถนนร้านค้ามีร้านราเมงมากกว่า 120 ร้านให้นักท่องเที่ยวได้เลือกรับประทานค่ะ และแต่ละร้านก็มีลูกค้ามากมายแวะเวียนมาลิ้มลอง และที่สำคัญไม่ต้องห่วงว่าจะลองร้านไหนดี เพราะทางโรงแรมในเมืองหรือตามศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจะมีแผนที่บอกพิกัดร้านราเมงเจ้าดังๆแจกค่ะ
นอกจากนี้แล้ว ยังมีโรงหมักเหล้าดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นอยู่ในเมืองอีกด้วยนะคะ






สำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางมายังเมือง คิตะคะตะ ก็คือช่วงเมษายนค่ะ เพราะที่นี่มีถนนสายซากุระ ที่ชื่อว่า NICCYU-SEN KINEN HODO ที่มีต้นซากุระสายพันธุ์ชิดะเระ หรือ สายพันธุ์ย้อยปลูกเต็มสองข้างทางค่ะ
อันที่จริงดอกซากุระในญี่ปุ่นมีหลายสายพันธุ์นะคะ อย่างสายพันธุ์ที่เราพบเห็นได้ทั่วไปก็คือ SOMEI-YOSHINO แต่สายพันธุ์ที่ปลูกใน  NICCYU-SEN KINEN HODO นั้น จะเป็นสายพันธุ์ SHIDARE-SAKURA ซึ่งมีกิ่งที่ย้อยและมีสีชมพูเข้มกว่าสายพันธุ์อื่นๆค่ะ
เมื่อเข้าช่วงเมษายน นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมากแห่มาที่เมืองแห่งนี้เพื่อชมดอกซากุระค่ะ ซึ่งมองดูเป็นสีชมพูทั่วบริเวณสองฝั่งของถนนเลยค่ะ หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยว ควรจะตื่นไปดูแต่เช้าค่ะ เพราะเป็นช่วงที่คนไม่เยอะมากเท่าไหร่  เพื่อนๆต้องร้องว้าว แน่ๆหากใครได้มาถ่ายรูปที่นี่ลงโซเขียล








สถานที่ท่องเที่ยวนอกตัวเมืองอยาก สะพาน The First  TADAMI RIVER BRIDGE ก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดค่ะ ที่นี่จะมีความสวยงามเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในแต่ละฤดูกาลซึ่งเหมาะแก่การมาเที่ยวมากๆค่ะ
ข้อมูลการท่องเที่ยวเวอร์ชั่นภาษาไทยของ Oku-Aizu  地図は http://u0u1.net/ROXr

หลังจากสิ้นสุดทริปเที่ยวเมืองคิตะคะตะจังหวัดฟุคุชิมะและรอบๆแล้ว ต่อไปเราก็มุ่งหน้าไปยังจังหวัดข้างเคียงอย่างเมืองโยเนะซาว่า ที่อยู่ในจังหวัดยามางะตะค่ะ
นักท่องเที่ยวสามารถจองโรงแรมภายในเมืองโยเนซาว่าได้เลย และพักเอาแรงหนึ่งคืนก็จะเริ่มต้นการเดินทางในวันถัดไป






จังหวัดข้างเคียงของฟุคุชิมะที่พลาดไม่ได้อีกที่คือจังหวัดยะมะงะตะ จังหวัดนี้มีเมืองหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวนั่นก็คือ เมือง Yonezawa ที่ขึ้นเรื่องการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ไม่น้อยไปกว่าเมือง Aizu-Wakamatsu เลย
พื้นที่แถบนี้แต่ก่อนเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูล UESUGI และยังคงมีมรดกตกทอดมาจนถึงปัจจุบบัน นั่นก็คือศาลเจ้า  UESUGI และโรงเรียน NISSHINN-KAN ที่ตอนนี้กลายเป็นสวนสาธารณะสวยๆให้ผู้คนได้พักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะดอกไม้ที่เบ่งบานในฤดูใบไม่ผลิของสวนแห่งนี้ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่นเลยค่ะ

หากใครเดินทางด้วยรถยนต์แล้วก็ จะได้สัมผัสกับบรรยากาศความสวยงามของภูเขาได้ตลอด 1 ชั่วโมงเต็มเลย
หรือหากเดินทางด้วยตั๋ว เจอาร์พาส ก็สามารถเดินทางจากเมือง Aizu-Wakamatsu ไปยัง เมือง Koriyama ได้ค่ะ โดยชินคันเซนสายโทโฮคุ หากเดินทางด้วยชินคันเซนจะใช้เวลาราวๆ 36 ชั่วโมงค่ะ
หากเป็นการซื้อทัวร์นำเที่ยวมา การเดินทางโดยรถยนต์ก็นับว่าสะดวกมากๆค่ะ







สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง Yonezawa ก็คือเนื้อ(วัว) วะกิวระดับพรีเมี่ยมของประเทศญี่ปุ่นค่ะ
และภายในเมืองนี้เอง มีร้านเนื้อย่างหรือร้านสเต็กอยู่เพียบเลยค่ะ แต่ว่าเนื้ออาจจะมีราคาแพงมากๆ แนะนำว่าหากอยากลองชิมจริงๆ ซื้อข้าวกล่องสถานีราคาย่อมเยาก่อนขึ้นชินคันเซนก็น่าจะเซฟงบได้มากอยู่นะคะ
ข้อมูลการท่องเที่ยวเมือง Yonezawa
https://www.yira-yonezawa.org/sightseeing/en/






จากสถานี Yonezawa เราเดินทางกลับมาโตเกียวโดยชินคันเซน ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมงก็ถึงที่สถานีอุเอโน่ค่ะ
บริเวณรอบๆสถานีรถไฟอุเอโน่ มีแหล่งชอปปิ้งที่คนไทยชอบไป เช่น Ameyoko หรือห้าง Takeya นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะและย่านอะซะคุสะที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของโตเกียวอีกด้วย พื้นที่ย่านอะซะคุสะนั้นทางสะดวกไม่ว่าจะเชื่อมต่อสนามบินนาริตะ หรือว่า ฮะเนดะ จึงสามารถแวะพักที่โรงแรมแถวนี้ได้อีกหนึ่งคืน ก่อนเดินทางกลับได้อีกด้วยค่ะ

หน้าเพจข้อมูลสถานที่บริเวณรอบๆ อุเอโน่ https://www.facebook.com/taito.spiritoftokyo.th
หน้าเวบไซต์ของห้างทะเคยะ (ภาษาไทย)     https://takeya.co.jp/thai/

แวะพักที่อุเอโน่ก่อนหนึ่งคืนก่อนกลับกรุงเทพ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ


หากใครสนใจแพ็คเกจทัวร์การท่องเที่ยวที่จัดทำโดยบริษัทนำเที่ยวชั้นนำของญี่ปุ่น KINKI NIPPON TURIST และบริษัทนำเที่ยวไทย ที่จะพานักท่องเที่ยว เที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเช่นเมือง ไอสึ คิตะคะตะ โยเนซะว่า สามารถคลิ๊กเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์นี้เลยนะคะ